In The Rain - In The Rain นิยาย In The Rain : Dek-D.com - Writer

    In The Rain

    ....ฤดูฝนจะนำอะไรพิเศษมาให้ผมล่ะ....นอกจากเปียกเป็นพิเศษ .. วินาทีแรกที่ตาของผมสบเข้ากับสายตากลมโตคู่นั้น..แววตาทะเล้นที่ดูเหมือนจะเก็บอะไรบางอย่างไว้ภายใน ผมรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า...ความรู้สึกนี้เค้าเรียกว่าอะไรกันนะ......(...)(...)(JaeMin)

    ผู้เข้าชมรวม

    785

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    785

    ความคิดเห็น


    12

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ม.ค. 50 / 05:18 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      In The Rain….

      วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฝนตก  คงเป็นเพราะตอนนี้เป็นฤดูฝน ฝนตกทุกวันและนับวันจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ

      ผมกระชับร่มในมือให้แน่นขึ้น...เพราะลมที่พัดมาพร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายนั้น อาจจะทำให้ร่มหลุดมือไปได้

      ผมรีบก้าวฉับๆฝ่าสายลมไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด...เพราะดูเหมือนว่าร่มในมือแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย  ตอนนี้ทุกส่วนของร่างกายผมเปียกปอนไม่ต่างกับคนที่ไม่มีร่มเลย  เบื้องหน้าของผมเป็นร้านกาแฟเล็กๆ เมื่อวานนี้น้องสาวตัวดีรบเร้าให้ผมพามากินเค้ก..ร้านนี้เป็นร้านประจำของเธอเลย...และรสชาติของอาหารที่นี่ก็ใช้ได้ 

      เอาหล่ะแวะหลบฝนที่นี่ก็แล้วกัน  หาอะไรอุ่นๆกิน รอให้ฝนซาก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน

      เสียงกระดิ่งที่แขวนอยู่หน้าประตูดังขึ้นเมื่อผมก้าวขาเข้าไป  ในร้านมีคนน้อยกว่าที่คิด ผมรู้สึกได้ถึงบรรยากาศอบอุ่น 

      .....ว้าว..ผมชอบร้านนี้จังเลย..ทั้งที่เมื่อวานผมยังรู้สึกเฉยๆอยู่เลย...แน่ล่ะตอนนี้ผมหนาวจนฟันบนกับฟันล่างมันกระทบกันดังกึกๆ

      ผมพาร่างกายอันเปียกปอนเข้าไปในร้าน  แล้วนั่งลงตรงโต๊ะว่างติดกับกระจกหน้าต่าง  นั่งตรงนี้จะสามารถมองเห็นภายนอกได้ชัดเจน  คนในร้านหันมามองผมเป็นตาเดียว

      .... มองอะไรกัน..แค่ผมสูงไปหน่อยเอง  186 ไม่มากไม่มายซะหน่อย 

      ผมชินซะแล้วหล่ะที่ถูกคนมองแบบนี้..ช่วยไม่ได้ที่คนอื่นเตี้ยนี่นา หึหึหึ 

      (ผมมักจะหาข้อดีให้ตัวเองเสมอแหละ เพราะผมคือชังมินผู้น่ารัก ^0^)...

      พนักงานประจำร้านเข้ามารับออเดอร์..พร้อมกับคุ๊กกี้อันใหญ่ 1 อัน

      "คุ๊กกี้เสี่ยงทายค่ะ...เราแจกให้ลูกค้าทุกคนที่มาในวันนี้" พนักงานสาวสวยอธิบาย เมื่อเห็นผมรับคุกกี้ไปด้วยใบหน้าเอ๋อๆ..(เอ..หรือว่าผมจะหน้าเอ๋ออย่างนี้อยู่แล้ว)

      ....เอาเถอะ แจกอะไรมาผมก็เอา ผมไม่ค่อยหาเหตุผลเรื่องของกินอยู่แล้ว โดยเฉพาะถ้ามันเป็นของฟรี

      (พระเอกของเราไม่ค่อยจะ...เลยนะ)

      "โกโก้ร้อน กับ เค้กผลไม้ 1 ชิ้นครับ"          ...พนักงานรับออเดอร์แล้วเดินจากไป

      ผมกินคุ๊กกี้ในมือไปพลางๆระหว่างรอ

      'ฤดูฝนจะนำมาซึ่งสิ่งพิเศษ'…..ผมอ่านกระดาษในมือซึ่งผมดึงออกมาจากคุ๊กกี้เสี่ยงทายอันนั้น

      ....ฤดูฝนจะนำอะไรพิเศษมาให้ผมล่ะ....นอกจากเปียกเป็นพิเศษ ..

      ผมขยำกระดาษเก็บใส่กระเป๋าด้วยความเคยชินอย่างไม่ใส่ใจนัก ในเวลาเดียวกับที่พนักงานสาวคนเดิมยกโกโก้ร้อนและขนมเค้กมาเสิร์ฟ

      ตอนนี้ร่างกายของผมเริ่มอบอุ่นขึ้นแล้ว จากถ้วยโกโก้ร้อนในมือ ผมกระชับถ้วยใบอุ่นนั้นไว้ในมือ... ผมล้วงไดอารี่ประจำตัวออกมาจากกระเป๋าเป้....ผมมักจะเขียนไดอารี่ทุกทีที่มีโอกาส...ถึงแม้ว่าอ่านแล้วมันจะแปลกๆก็เถอะ 

       'วันนี้ก็....เหมือนเมื่อวานฝนตกอีกแล้ว

      ตอนเช้าไปเรียนหนังสือ....เดินกลับบ้านเปียกไปหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า..หนาวชะมัดเลย

      อาทิตย์นี้แวะมาร้านกาแฟ 2 ครั้งแล้ว  เค้กอร่อย 555'

      หลังจากเขียนบันทึกประจำวันไม่ได้ความลงไป 2 บรรทัด...ผมก็ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อไปอีก  จึงปิดไดอารี่ลง

      แล้วมองไปนอกหน้าต่าง...ฝนยังคงตกอยู่ แต่ก็เบาลงกว่าเมื่อครู่แล้ว  ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ก็ผมเดินผ่านทางนี้ทุกวันนี่นา..เวลาไปมหาวิทยาลัยแล้วก็กลับบ้าน... แต่มีบางสิ่งที่ทำให้ผมชะงักสายตา...ภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่ดูจะไม่อนาทรร้อนใจกับฝนที่ตกลงมาเลย...ผิวที่ขาวอยู่แล้วยิ่งซีดลงกว่าเดิม เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน  ร่างบางยืนอยู่ตรงฟุตบาทท่ามกลางสายฝนตกตกลงมาใส่อย่างไม่ขาดสาย...ผมดำขลับเปียกเรียบลู่ลงมาตามต้นคอ...สงสัยจะอกหัก

      ก็แค่คนไม่มีร่ม เดินตากฝนทำไมผมต้องสนใจมากขนาดนั้นด้วย...ผมคิดอย่างนั้นแต่ก็สายตาจับจ้องผู้ชายคนนั้นไม่วางตา....

      ดูเหมือนว่ารังสีสงสัย(หรือหื่นกันนะ...)ของผมจะแรงกล้าเกินไป  คนถูกมองคงจะรู้ตัวหันมาสบตาผม..ผมได้เห็นหน้าของคนๆนั้นเต็มตาเป็นครั้งแรก...ริมฝีปากอิ่มสีชมพู ดูท่าทางว่าเวลาปกตินายคนนี้คงปากแดงน่าจูบน่าดูเลย แต่ตอนนี้ปากคงซีดลงเพราะความหนาว..... 

      วินาทีแรกที่ตาของผมสบเข้ากับสายตากลมโตคู่นั้น..แววตาทะเล้นที่ดูเหมือนจะเก็บอะไรบางอย่างไว้ภายใน ผมรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า...ความรู้สึกนี้เค้าเรียกว่าอะไรกันนะ......(...)(...)(...)

      เราสบตากันอยู่ครู่นึง...ก่อนที่เค้าจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น...ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า  แว่บนึงผมเห็นความเจ็บปวดในแววตาของเค้า....แล้วเค้าก็เดินจากไปท่ามกลางสายฝนนั้น

      อะไรกัน..ถือว่าสวยเหรอ..คิดจะมายั่วยวนแล้วจากไปแบบนี้เนี่ยนะ....วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับชิมชังมินหรอก...(ถ้าส่งข้าวกล่องสิมาทุกวันผมจะรับไว้พิจารณา หึหึหึ)..ผมคิดเพ้อเจ้อคนเดียวอยู่ในใจ...ผมกำลังหลอกตัวเองว่าไม่ได้สนใจผู้ชายคนนั้น

      'โฉมงามกลางสายฝน....

      ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเค้า...และเกิดอะไรขึ้นกับผม

      ตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมเห็นเค้า....ผมรู้สึกว่าสายฝนทำให้คนๆนึงดูสวยงามได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ'

      ......................................

      วันรุ่งขึ้นหลังจากเลิกเรียน ผมก็แวะไปที่ร้านนั้นอีก...นั่งอยู่ตรงที่เดิม  มองออกไปที่เดิม...แต่ก็ไม่เคยเห็นแม้แต่เงาของผู้ชายคนนั้น

      ....บางทีเค้าอาจจะเป็นแค่คนต่างถิ่นที่บังเอิญผ่านมาแถวนี้  และตอนนี้ก็กลับบ้านเกิดไปแล้ว คงไม่มีโอกาสที่จะได้เจอกันอีก

      ผมรู้ดีว่าโอกาสที่จะได้เจอกันอีกนั้นมันน้อยเต็มทีแต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดผมถึงพาตัวเองมาที่นี่อีก

      ผมมองไปที่บอร์ดรูปที่ติดอยู่หน้าร้าน...นี่เป็นเสน่ห์อีกอย่างนึงของร้านนี้...คือมีบอร์ดไว้สำหรับติดรูปหรือฝากข้อความต่างๆได้...รูปส่วนใหญ่ก็เป็นรูปของลูกค้าทั้งนั้นและมักจะมีข้อความหวานๆ หรือ ข้อความฝากบอกแปะไว้เป็นประจำ...เช่นว่า...เห็นข้อความแล้วโทรกลับด้วย..หรือรูปนี้ถ่ายกับ โอป้า เป็นต้น .. ผมไม่เคยสนใจจะมองดูรูปภาพและข้อความเหล่านี้อย่างจริงจังซักครั้ง....แต่วันนี้น้องสาวตัวดีของผมฝากให้เอารูปมาติดที่บอร์ดนั่นด้วย ..

      ก็รูปของผมกับเธอวันที่มากินเค้กกันวันนั้นแหละ...ข้างล่างมีข้อความ...

      'พี่ชายผู้ซึ่งถูกแม่บังคับให้พาน้องมากินเค้ก'

      ดูมันเขียนข้อความใต้รูป...น่าจะเขียนว่าน้องสาวจอมร้ายกาจผู้บังคับพี่ชายรูปหล่อให้พามากินเค้ก

      ผมมองหาที่ว่างสำหรับติดรูป....แต่ผมก็ต้องชะงักกับรูปใบหนึ่งบนบอร์ด....รูปของผู้ชายคนนั้น...ดูท่าเค้าคงใช้กล้องถ่ายรูปตัวเอง...ผมสีดำตากลมโต และรอยยิ้มที่ดูมีความสุขดูแตกต่างจากวันนั้น  ผมเห็นรูปตัวเองอยู่ด้านหลังในรูปถ่ายของเค้าด้วย  เพราะโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ด้านหลังของเค้าตอนกำลังถ่ายรูป

      นี่เราเคยอยู่ใกล้กันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย??

      ข้างล่างภาพมีข้อความ ' ผมชื่อคิมแจจุง แอบรักใครคนหนึ่งอยู่ เอาใจช่วยผมด้วยนะ' ...ผมยิ้มตอบให้กับรูปใบนั้นทั้งที่ในใจรู้สึกราวกับโดนเข็มทิ่มแทงเป็นพันเล่ม...ไม่รู้ว่าทำไมคนที่เจอกัน..สบตากันแค่แว่บเดียวจะมีผลกับความรู้สึกของผมอย่างใหญ่หลวงขนาดนี้....ผมติดรูปของผมข้างๆรูปใบนั้นด้วยมือสั่นเทาก่อนจะก้าวขาออกมาจากร้าน...ฝนยังคงตกพรำๆ ผมเดินฝ่าสายฝนออกไปโดยไม่สนใจว่ามันจะทำให้ผมเปียกปอนแค่ไหน...ตอนนี้ผมก็ทำตัวเหมือนผู้ชายคนนั้นไม่มีผิด..............

       'สายฝนที่ร่วงหล่นลงมา...ผมเคยได้คำทำนายว่า ฤดูฝนจะนำมาซึ่งสิ่งพิเศษ  ผมเคยสงสัยว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร

      บัดนี้ผมได้รู้แล้ว...สายฝนนั่นเองที่นำพาสายตาของผมไปพบกับใครบางคนที่สามารถทำให้ผมรู้สึกพิเศษอย่างไม่น่าเชื่อ แม้เพียงแค่ได้มองจากที่ไกลๆ

      ความรู้สึกพิเศษนั้น....นำมาซึ่งความเจ็บปวดจนผมแทบจะหายใจไม่ออก  เมื่อผมได้รู้ว่าใครคนนั้นคงไม่มีทางจะตอบรับความรู้สึกของผมได้     ผมรู้สึกพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ'

      ……………………………………………………..

      ผมนอนซมเพราะพิษไข้อยู่ 2 วัน   ผมคงทนนอนป่วยอยู่ที่บ้านได้ไม่นาน  เพราะยัยน้องสาวตัวดีของผมนะสิ

      ...ดูสิ พี่เชื้อป่วยแทนที่จะเป็นห่วง...มันถากถางผมทุกวัน

      "นี่..สารอาหารที่พี่กินเข้าไปทุกวันน่ะเอาไปบำรุงกระดูกต่อความสูงอย่างเดียวเลยเหรอ....ไม่ไปบำรุงเซลล์สมองบ้างเลยหรอก ถึงได้ถือร่มเดินตากฝนกลับบ้านแบบนั้นน่ะ"

      จะว่าไปก็ถูก...ผมเป็นอะไรไปนะ....แค่รู้ว่าคนบางคนมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ก็เบลอถึงขนาดลืมกางร่มแล้วเดินตากฝนกลับบ้าน...ถึงจะดูเหมือนพระเอก MV แต่ต้องมาเป็นไข้เนี่ย  ไม่คุ้มกันเลย

      ……………………………………………………..

      ....ให้ตายเถอะ...มันจะตกอะไรนักหนานะ....สุดท้ายผมก็ต้องแวะเข้าไปหลบฝนในร้านกาแฟร้านเดิมอีก...

      ผมเลือกที่นั่งตรงที่เดิม...ดูเหมือนที่ตรงนั้นจะว่างไว้รอผมเสมอ(...ผมอาจจะคิดไปเอง..แต่มันว่างทุกครั้งเลยนะ)

      หลังจากที่ผมสั่งชาร้อนกับครัวซอง ไปแล้ว ผมก็ ล้วงไดอารี่ขึ้นมาเขียนอีก หลังๆมานี้ไดอารี่ของผมมีแต่เรื่องราวน้ำเน่าจนตัวผมเองก็คาดไม่ถึงว่าจะเขียนไปได้

      'ในร้านๆเดิม...ที่นั่งที่เดิม...คนๆเดิม..ทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนเดิม

      หากแต่ความรู้สึกในวันนี้กับวันนั้นมันช่างต่างกัน...ตอนนี้ผมรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินที่ได้มานั่งอยู่ในที่ๆเดิมตรงนี้

      คิมแจจุง..หวังว่าคนที่คุณคงชอบบคุณนะ...ผมเองยังชอบคุณเลย'

      "ชาร้อนกับครัวซอง ครับ"

      เสียงใครหวานทุ้มของใครคนหนึ่งทำให้เงยหน้าขึ้นมาจากการไดอารี่นั้น

      ผมอ้าปากค้าง..เมื่อคนที่นำอาหารมาเสิร์ฟนั้นคือผู้ชายคนนั้นนั่นเอง...คิมแจจุงยิ้มอย่างเป็นมิตรแล้วเสิร์ฟอาหารให้ผม  ผมยังคงพูดอะไรไม่ออก

      "สวัสดีครับ ผมชื่อคิมแจจุง..เป็นเจ้าของร้านนี้ครับ...รับประทานให้อร่อยนะครับ"

      คิมแจจุงคนนั้นยิ้มให้ผมอีกหนึ่งทีก่อนจะเดินจากไป

      ผมดื่มชาอย่างร้อนรนจนแทบสำลัก....แน่นอนว่าผมอยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

      ยิ่งเห็นหน้าใกล้ๆแล้ว ยิ่งเห็นว่างดงามขนาดไหน...และผมก็ยิ่งเจ็บปวดใจ

      ....แน่หล่ะ สวยขนาดนั้นถ้ายังไม่มีแฟนก็คงแปลก

      ผมวางเงินไว้บนโต๊ะ..แล้วคว้าเป้เดินออกจากร้านทันทีที่ดื่มชาหมด

      ...........................................................................................................

      .....อยู่ไหนนะ??..

      คืนนั้นผมหาไดอารี่ไม่เจอ  หลังจากที่ค้นหาอยู่หลายรอบ  ผมก็เริ่มตระหนักได้ว่า ผมคงไม่สามารถย่างกรายเข้าไปในร้านกาแฟนั้นได้อีกต่อไป...เพราะผมคงลืมมันไว้ที่นั่นแน่ๆ  เป็นไปได้สูงว่าคิมแจจุงคนนั้นอาจจะได้อ่านไดอารี่ของผมแล้ว

      ......ตายล่ะ..เค้าก็รู้น่ะสิว่าผมแอบชอบเค้าน่ะ

      ............................................................................................................

      เช้าวันรุ่งขึ้น....

      น้องสาวตัวแสบของผมยื่นถุงกระดาษใบหนึ่งตรงหน้าผมเมื่อผมเปิดประตูห้องออกมา

      "เมื่อเช้ามีพี่คนที่สวยๆน่ะ  เอามาให้บอกว่าฝากให้พี่ด้วย"

      "หืม...ขอบใจนะ..." ผมรับถุงกระดาษใบนั้นมา  แล้วเปิดดูข้างใน  ใครกันนะเอามาให้ผม

      ไดอารี่เล่มนั้น!!!  ผมตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อเห็นว่าของที่อยู่ในถุงคืออะไร

      .....งั้นคนที่สวยๆที่ว่าก็...

      ผมเปิดไดอารี่ไล่ไปจนถึงหน้าสุดท้าย  มีลายมือที่ผมไม่คุ้นเคยเขียนเอาไว้ต่อจากข้อความของผม

      'สวัสดีครับ...ผมชื่อคิมแจจุง (คงเป็นคำขึ้นต้นที่ติดปาก)

      ผมต้องขอโทษด้วยที่ถือวิสาสะอ่านไดอารี่ของคุณ...เมื่อวานนี้คุณลืมมันเอาไว้ที่ร้าน

      และผมก็ต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำให้คุณต้องวุ่นวายใจ...นับตั้งแต่วันที่เราสบตากันในวันฝนตกนั้น

      ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณดี...เพราะผมเองก็เคยคิดว่าคนที่ผมชอบและเฝ้ามองเค้ามานานมีคนที่รักอยู่แล้วทั้งๆที่ความจริงแล้วนั่นเป็นน้องสาวของเค้า...ผมรู้ความจริงเมื่อเห็นรูปที่บอร์ดใน 2 วันถัดมาและในอีก 2 วันถัดมา ผมก็ได้รู้ว่าคนที่ผมชอบก็ชอบผมอยู่เหมือนกัน....จากไดอารี่เล่มนี้

      ...ที่ตรงนั้นยังเป็นของคุณเสมอ...ผมจะรอคุณครับ

      คิมแจจุง '

      ผมปิดไดอารี่ลงด้วยหัวใจเต้นรัวเมื่ออ่านข้อความนั้นจบ...สงสัยผมคงต้องกลายเป็นลูกค้าประจำของร้านนั้นซะแล้ว....

      ..... 'ฤดูฝน จะนำมาซึ่งสิ่งพิเศษ'

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×